พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ( พระแก้วมรกต )
พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวไทย

เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ นั่งขัดสมาธิราบ องค์จริงทำจากวัสดุหยกสีเขียว มีขนาดหน้าตัก 19 นิ้ว สูง 28 นิ้ว ( วัดจากฐานถึงปลายรัศมี )
สร้างครั้งแรกในสมัยเชียงแสนตอนต้น
ประดิษฐานอยู่ในเจดีย์วัดป่าญะ ตำบลเวียง เมืองเชียงราย
โดยมีตำนานว่า เมื่อ พ.ศ. 1978
สถูปใหญ่ในเมืองเชียงราย ได้ถูกฟ้าผ่าลงทำให้เกิดความเสียหายทลายลงมา
จากเหตุการณ์นั้น มีการพบพระพุทธรูปองค์หนึ่งอยู่ภายใน จึงได้มีการอัญเชิญขึ้นประดิษฐานในวิหาร
เมื่อเวลาผ่านไป ปูนปั้นที่เป็นผิวนอกได้กระเทาะออก จึงปรากฏเป็นพระพุทธรูปแก้ว มีสีเขียวมรกตทึบงดงามบริสุทธิ์
หลังจากนั้นพระเจ้าสามฝั่งแกนแห่งเชียงใหม่
ทราบข่าวการค้นพบพระพุทธรูปนี้ จึงมีการโปรดให้อัญเชิญมาที่เมืองเชียงใหม่ในสมัยนั้น
แต่กระบวนช้างทรงกลับเบนทิศไปยังเมืองลำปาง
เหตุการณ์นี้ปรากฏซ้ำกันถึง 3 ครา จึงทำให้ต้องอัญเชิญไปไว้ ณ วัดพระแก้วดอนเต้า เมืองลำปาง
และประดิษฐานอยู่ ณ ที่นั้น เป็นเวลา 32 ปี
ต่อมาในรัชสมัยพระเจ้าติโลกราช พระมหากษัตริย์แห่งล้านนา ราชวงศ์มังราย ( พ.ศ. 1985 - 2031 )
ทรงเป็นพระโอรสลำดับที่ 6 ของ พระเจ้าสามฝั่งแกน
ให้มีการอัญเชิญมาสู่เมืองเชียงใหม่ สร้างปราสาทประดิษฐานไว้ แต่ถูกฟ้าผ่าหลายครั้ง
ครั้นต่อมาพระเจ้าไชยเชษฐา
แห่งล้านช้าง
ได้เสด็จ
มาครองเมืองเชียงใหม่
ในคราที่ทรงเสด็จกลับหลวงพระบาง
ก็เชิญพระแก้วมรกตไปด้วยพร้อมกับพระพุทธสิหิงค์
ทางเชียงใหม่ขอคืนก็ได้แต่พระพุทธสิหิงค์กลับมา
ต่อมาเมื่อล้านช้างย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบางมาเวียงจันทน์ ก็ได้มีการ
ก็เชิญพระแก้วมรกตลงมาด้วย
จนกระทั่ง ในสมัยกรุงธนบุรี
เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้มีชัยชนะในศึกที่เวียงจันทร์ จึงได้อัญเชิญพระแก้วมรกตมาจากอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ (ลาว)
โดยในครั้งนั้นได้ประดิษฐานองค์พระไว้ที่วัดอรุณราชวราราม
เมื่อครั้งสิ้นรัชสมัยของพระเจ้าตากสินมหาราช
เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
และได้ทรงอัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรลงบุษบกในเรือพระที่นั่ง เสด็จข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มาประดิษฐานยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม จนถึงปัจจุบัน
