พระแม่โพสพ มีลักษณะ "...เป็นหญิงสาวท่าทางอ่อนช้อยสวยงาม ภาพของนางที่สร้างขึ้นเพื่อเคารพบูชาเป็นท่านั่งพับเพียบ มือขวาถือรวงข้าวมือซ้ายถือถุงข้าว แต่งกายนุ่งผ้าถุงห่มผ้าสไบเฉียงแบบหญิงในวังสมัยก่อน" แม้พระแม่โพสพจะมีมาเนิ่นนานก่อนการรับศาสนาพราหมณ์แต่ถือกันว่าเป็นพระภาคหนึ่งของพระลักษมี บ้างก็ว่าเดิมเป็นชายาองค์หนึ่งของพระอินทร์ ชื่อ พระสวเทวี (เพื่อโยงชื่อโพสพเข้ากับชื่อชายาพระอินทร์ นั่นคือให้ 'สพ' แผลงมาจาก 'สว' ส่วน โพอาจจะมาจากชื่อ ไพสพ ของเทวดารักษาทิศอีสาน)
ปัจจุบันการบูชาพระแม่โพสพได้สร่างซาลงไป โดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายมลายูที่เลิกการบูชาโพสพเพราะขัดกับหลักศาสนาอิสลาม ต่อมาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถได้ทรงอุปถัมภ์พิธีกรรมโบราณนี้เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2551 บางหมู่บ้านก็มีสตรีแต่งกายเป็นพระแม่โพสพช่วงเทศกาลหรืองานเฉลิมฉลองในท้องถิ่น
คาถาบูชา
ตั้งนะโม 3 จบ แล้วกล่าวว่า
โพสะวะโภชะนัง อุตตะมะ ลาภัง มัยหัง สัพพะสิทธิหิตั้ง โหตุ
แม่นางกวัก
ตามตำราโบราณว่ากันว่า นางกวักเป็นบุตรีของปู่เจ้าเขาเขียวหรือท้าวพนัสบดี ซึ่งเป็นเจ้าชั้นจาตุมมหาราชิกาคือสวรรค์ชั้นที่หนึ่งมีตำแหน่งเป็นพระพนัสบดีคือเจ้าแห่งป่าเขาลำเนาไพรทั้งปวง
ครั้งนั้นมีสูรตนหนึ่งชื่อ ท้าวกกขนาก ซึ่งเป็นเพื่อนกับ ปู่เจ้าเขาเขียว ถูกพระรามเอาต้นกกแผลงไปถูกทรวงอกแล้วตรึงร่างไปติดเขาพระสุเมรุแล้วสาปว่าตราปใดที่บุตรของท้าวกกขนากทอใยบัวเป็นจีวรเพื่อถวายแด่พระศรีอาริยเมตไตรยที่จะเสด็จมาตรัสรู้แล้วจึงจะพ้นคำสาป
ดังนั้น นางประจันต์ บุตรสาวของท้าวกกขนากจึงต้องคอยอยู่ปฏิบัติบิดาและพยายามทอจีวรด้วยใยบัวเพื่อให้เสร็จทันถวายพระศรีอาริยเมตไตรยที่จะเสด็จมาตรัสรู้ในอนาคตเมื่อบุตรสาวของท้าวกกขนากมาคอยดูแลพระบิดาที่เขาพระสุเมรุนั้นทำให้ฐานะความเป็นอยู่ของนางลำบากยิ่งนัก
ฝ่ายปู่เจ้าเขาเขียวเมื่อทราบเรื่องจึงได้เกิดความสงสารก็เลยส่งนางกวักบุตรสาวตนมาอยู่เป็นเพื่อนด้วยบุญญฤทธิ์ของนางกวักจึงได้บันดาลให้พ่อค้าวานิชและผู้คนเกิดความสงสารเมตตาพากันเอาทรัพย์สินเงินทองทั้งเครื่องอุปโภคบริโภคมาให้ยังที่พักของนางประจันต์เป็นจำนวนมากทำให้ความเป็นอยู่ของนางประจันต์มีความสมบูรณ์พูนสุขและเจริญด้วยลาภทั้งปวง....
คาถาบูชาแม่นางกวัก
โอมมหาสิทธิโชคอุดม โอมปู่เจ้าเขาเขียว มีลูกสาวคนเดียวชื่อว่านางกวัก ชายเห็นชายรัก หญิงเห็นหญิงทัก รู้จักทุกตำบล คนรักถ้วนหน้า โอมพวกพานิชชาค้าหัวแหวนพากูไปค้าถึงเมืองแมนค้าแหวนก็ได้แสนทะนานกูค้าสารพัดการก็ได้กำไรคล่องๆกูจะค้าเงินก็เต็มกองทองก็เต็มหาบ กลับมาเรือนสามเดือนเลื่อนเป็นเศรษฐีสามปีเป็นพ่อค้าสำเภาโอมปู่เจ้าเขาเขียว ..ประสิทธ์ให้กูคนเดียว สวาหะ.............................